บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดย คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานอุปถัมภ์ ทอดถวายกฐินสามัคคี ประจำปี 2568 ณ วัดไร่เชิญตะวัน ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เพื่อสมทบทุนในการสร้างวิปัสสนาคารนานาชาติ และ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สืบสานประเพณีอันดีงามของไทย
โดยมีพระเดชพระคุณ พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พล.อ.นพ.ชูฉัตร กำภู ณ อยุธยา อดีตกรรมการบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และคุณหญิงวิลาวัลย์ กำภู ณ อยุธยา ภริยา เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีทอดถวายกฐินสามัคคี ร่วมด้วยคณะกรรมการ ที่ปรึกษา ผู้บริหาร พนักงาน ร่วมด้วยแขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน รวมถึงผู้มีจิตศรัทธาสาธุชนทั่วไป
ในการทอดถวายกฐินสามัคคีครั้งนี้ได้ยอดเงินทำบุญสมทบทุนบำรุงพระอาราม รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,641,511.41 บาท โดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมทำบุญ จำนวน 1,000,000 บาท คณะกรรมการ ที่ปรึกษา ผู้บริหาร พนักงาน บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ร่วมทำบุญ 346,770 บาท สาธุชนทั่วไปร่วมทำบุญ จำนวน 1,294,741.41 บาท
และในโอกาสการทอดถวายกฐินสามัคคีครั้งนี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้มอบทุนการศึกษาบำรุงโรงเรียน จำนวน 4 ทุน ทุนๆ ละ 10,000 บาท ประกอบด้วย ทุนบำรุงการศึกษาโรงเรียนวัดครึ่งใต้วิทยา ทุนบำรุงการศึกษาโรงเรียนวัดครึ่งใต้ ทุนบำรุงการศึกษาโรงเรียนอนุบาลห้วยสักวิทยาคม และทุนการศึกษาโรงเรียนอนุบาลอนุบาลห้วยสัก ท่ามกลางสาธุชนที่ร่วมกันอนุโมทนาบุญกันอย่างพร้อมหน้า
วัดไร่เชิญตะวัน ตั้งอยู่ ณ บ้านใหม่สันป่าเหียง ตำบลห้วยสัก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ก่อตั้งโดยพระเดชพระคุณ “พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) พระนักคิด นักเขียน นักพัฒนาสังคม ซึ่งเป็นที่รู้จักผ่านนามปากกา “ว.วชิรเมธี” เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2552 เดิมวัดแห่งนี้มีสถานภาพเป็นศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ได้รับการยกฐานะเป็นวัดในพระพุทธศาสนา ในชื่อว่า “วัดไร่เชิญตะวัน” สังกัดมหานิกาย คำว่า “ไร่เชิญตะวัน” มาจากคำว่า “ไร่” ซึ่งหมายถึงที่ดินเดิมซึ่งมีสภาพเป็นไร่ลำไย ลิ้นจี่ กระท้อน ของเกษตรกรมาก่อน ต่อมาเมื่อเจ้าของที่ดินมีกุศลเจตนาน้อมถวายที่ดิน จำนวน 8 ไร่ ให้เป็นศูนย์วิปัสสนาสากล พระเดชพระคุณ “พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี)” จึงคงคำว่า “ไร่” ไว้หน้าชื่อของธรรมสถานแห่งนี้เพื่อแสดงถึงความกตัญญูกตเวทิตาต่อเจ้าของที่ดินผู้เปี่ยมด้วยคุณูปการ ส่วนคำว่า “เชิญตะวัน” เป็นคำอุปมาหมายถึง เชิญพระธรรมซึ่งเป็นดั่งหนึ่งดวงตะวันเข้ามาเป็นแสงสว่างนำทางชีวิต เมื่อสองคำรวมกันเป็น “ไร่เชิญตะวัน” จึงหมายถึง รมณียสถานแห่งการเชิญพระธรรมซึ่งเป็นดังหนึ่งดวงตะวันเข้ามาเป็นแสงสว่างนำทางชีวิต






