F&N เฉลิมฉลองครบรอบ 140 ปี สร้างรากฐานมั่นคงให้อนาคต

บริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ โฮลดิ่งส์ เบอร์ฮาด (“F&NHB” or “กลุ่ม”) จัดงานประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 62 คุณ Lim Yew Hoe CEO ของ F&NHB กล่าวกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในฐานะตัวแทนของคณะกรรมการบริษัทและคณะผู้บริหาร เน้นย้ำถึงผลประกอบการของกลุ่มและการพัฒนาที่ดีขึ้นในด้านต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ 2566 โดยธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศมาเลเซีย (F&B Malaysia) และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย (F&B Thailand) มีส่วนสำคัญยิ่งในการสร้างผลกำไรที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

“แม้ว่าจะมีรายจ่ายและค่าใช้จ่ายจากพลังงานสูงขึ้น ทางกลุ่มยังสามารถสร้างผลกำไรได้มากขึ้นกว่า 37.6 เปอร์เซ็นต์ ก่อนหักภาษี เป็นผลมาจากการมุ่งเน้นพัฒนาสัดส่วนระหว่างต้นทุนและยอดขาย ความเป็นเลิศในการดำเนินงาน การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานและการพัฒนาที่ยั่งยืน ทำให้มีผลประกอบการเพิ่มขึ้น 11.9% เป็น 5 พันล้านริงกิต” คุณ Lim Yew Hoe กล่าว

ในระหว่างการประชุมสามัญประจำปี คุณสุชิต ริ้วจรูญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินการของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย รวมถึงการดำเนินการเชิงกลยุทธ์เพื่อคงความเป็นเจ้าตลาด

ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นปีต่อปี ด้วยการตอบรับจากผู้บริโภคที่ดีขึ้นและการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ท่ามกลางราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สูงขึ้นและการขาดแคลนนม ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย สามารถคงความเป็นเจ้าตลาดในสินค้าประเภทนมข้นหวานและนมข้นจืดในประเทศไทย ผ่านกลยุทธ์ Route-to-Market ที่เข้มข้น และกิจกรรมในร้านค้า รวมถึงการสร้างแบรนด์และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค

นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังมีทัศนคติเชิงบวกกับทิศทางของบริษัท โดย คุณ Lim Yew Hoe ร่วมแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับโครงการพัฒนาสำคัญ ๆ ที่มีบทบาทในการประกันความสำเร็จของธุรกิจในอนาคตและการคว้าโอกาสใหม่ ๆ

ด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศมาเลเซีย ทางกลุ่มมั่นใจว่าถึงโอกาสในการในการก้าวไปข้างหน้า โดยเฉพาะกลยุทธ์ที่จะพัฒนาอาหารและผลิตภัณฑ์นมสำเร็จรูปในกลุ่มฮาลาลให้กลายเป็นเสาหลักสำหรับการเติบโตในระยะกลาง

“อาหารฮาลาลสำเร็จรูปยังคงเป็นเสาหลักของธุรกิจและสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราในการตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย” คุณ Lim Yew Hoe กล่าวเสริมว่าแผนงานต่าง ๆ กำลังถูกดำเนินการเพื่อรวมธุรกิจใหม่ทั้ง 2 ธุรกิจ ได้แก่ Cocoaland และ Sri Nona เข้ากับ F&N เพื่อกลยุทธ์ด้านการดำเนินการและการค้าที่ดีขึ้น ความแข็งแกร่งของ Cocoaland ในฐานะผู้ผลิตขนมชั้นนำได้เติมเต็มผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลของ Sri Nona อย่างลงตัว ตราสินค้าจากทั้งสองธุรกิจนี้จะสามารถยกระดับให้แก่ Route-to-Market ของกลุ่ม ทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ

พิธีเปิดหน้าดินของฟาร์มนมในเมือง Ladang Permai Damai ในวันที่ 15 มิถุนายน 2566 เป็นหมุดหมายสำคัญในความก้าวหน้าของ F&NHB อันจะนำไปสู่การจบโครงการเฟสที่ 1 ในช่วงต้นปี 2568 ที่จะมีการรีดนมครั้งแรก การเตรียมหน้าดินเริ่มดำเนินการในเดือนตุลาคม 2566 และคาดว่าจะใช้เวลา 13 เดือนในการก่อสร้าง ส่วนสำคัญของฟาร์มนี้ คือ โรงงานแปรรูปน้ำนมสดที่มีกำลังการผลิตกว่า 100 ล้านลิตรต่อปี สำหรับตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้านมจากต่างประเทศ และสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมการเกษตรท้องถิ่นมากขึ้น ทั้งยังสร้างความมั่นคงทางอาหารให้มาเลเซีย

ส่วนในประเทศไทย โรงงานที่วังม่วงและศูนย์การกระจายสินค้าระดับภูมิภาคมีผลการดำเนินการที่ดี คุณ Lim Yew Hoe กล่าวว่า “โรงงานนมที่วังม่วงมีความสำคัญต่อการเพิ่มการผลิตน้ำนมสดให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น และความทุ่มเทในการมอบโภชนาการที่ดีผ่านผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในพอร์ตโฟลิโอของเรา การเปิดตัวทีพอท นมข้นจืด เอ็กซ์ตร้า แบบกล่องขนาด 1 ลิตร ที่มาพร้อมฝาเกลียวด้านบน ประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะมอบทั้งความสะดวกสบายและคุณค่าให้ผู้บริโภค”

ทางกลุ่มจะสร้างรายได้จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการบริโภคนอกบ้านหลังการแพร่ระบาดที่มากขึ้น “ในขณะที่เราเดินหน้าตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคของเรา เรายังต้องการเพิ่มการเข้าถึงผู้ค้าปลีกในต่างจังหวัดโดยใช้ประโยชน์จากโครงการดิจิตอล วอลเล็ตที่รัฐบาลไทยได้นำเสนอว่าคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินจำนวน 10,000 บาทในช่วงเดือนพฤษภาคม”

ในขณะเดียวกัน กลุ่มจะเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้ตราสินค้าที่มีอยู่เดิม สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในมาเลเซีย ไทย และตลาดต่างประเทศ

“ขณะที่มีความผันผวนในราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและความต้องการของผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นเช่นไร เราจะมุ่งมั่นดำเนินการตามกลยุทธ์ระยะยาวของเรา โดยโฟกัสที่การควบคุมต้นทุนและการแสวงหาโอกาสในตลาดใหม่ ๆ”

“แม้ว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในปีงบประมาณที่กำลังจะมาถึง โดยมีผลกระทบจากประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ เรามั่นใจว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจได้ในอนาคตที่ไม่มีความแน่นอน” คุณ Lim Yew Hoe กล่าว

Y.A.M. Tengku Syed Badarudin Jamalullail ประธาน F&NHB สะท้อนถึงมรดกอันยาวนานกว่า 140 ปีของ F&N ว่า “ในขณะที่เรากำลังเฉลิมฉลองมรดกของเรา เราก็ตื่นเต้นกับปีที่กำลังจะมาถึง เปิดรับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลง ขณะที่เรากำลังเตรียมความพร้อมเพื่อสร้างเสาหลักด้านผลิตภัณฑ์อาหารและนมฮาลาลสำเร็จรูป เรายังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจหลักของเราที่จะส่งมอบ ‘Pure Enjoyment, Pure Goodness’ ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเรา”

ในปี 2566 กลุ่มได้รับรางวัล PwC Malaysia’s Building Trust Awards 2023 ในประเภท FBM Mid 70 Index และได้รับรางวัล Gold Award จากงาน The Edge Malaysia ESG Awards 2023 ในประเภทสินค้าอุปโภคบริโภคและการบริการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แพลตฟอร์มด้าน ESG ของ F&NHB ทำให้กลุ่มได้อยู่ในกลุ่ม 1 เปอร์เซ็นต์สูงสุดของการจัดอันดับระดับโลก FTSE Industry Classification Benchmark Supersector “การได้รับการยอมรับเช่นนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อสังคม สิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดี” Y.A.M. Tengku Syed Badarudin กล่าวเสริม

ในระหว่างการประชุมสามัญประจำปี Y.A.M. Tengku Syed Badarudin ยังได้ประกาศการถึงการจากไปของคุณ Dato’ Jorgen Bornhoft หนึ่งในอดีตคณะกรรมการ Non-Independent และ Non-Executive ของ F&N คุณ Dato’ Jorgen Bornhoft ได้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการของ F&NHB เป็นเวลา 9 ปี 8 เดือน ก่อนลาออกในปี 2566


ข้อมูลวันที่ 22/01/2024