‘บิสโตร เอเชีย’ จับเทรนด์ร้านอาหาร เดินหน้าสร้างแบรนด์แกร่ง

เปิดแผน ‘บิสโตร เอเชีย’ ธุรกิจอาหารในเครือไทยเบฟ ที่มีธุรกิจร้านอาหารหลากหลายแบรนด์ทั้งไทยและนานาชาติ พร้อมทุ่มงบ 100 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ 7 สาขา นำธุรกิจร้านอาหารในเครือไปเปิดสาขาใหม่ที่ วัน แบงค็อก (One Bangkok) ในเดือน ต.ค. นี้

เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญแห่งแวดวงอาหารญี่ปุ่น ไพศาล อ่าวสถาพร ผู้กุมบังเหียน “บิสโตร เอเชีย” อีกกลุ่มธุรกิจอาหารในเครือไทยเบฟ  เดินหน้าขยายอาณาจักร “บิสโตร เอเชีย” ที่มีธุรกิจร้านอาหารหลากหลายแบรนด์ทั้งไทยและนานาชาติ เป็นอีกความท้าทายครั้งใหญ่ท่ามกลางสมรภูมิร้านอาหารเมืองไทยที่มีการแข่งขันดุเดือด หากแต่การเข้ามารับช่วงธุรกิจที่ขาดทุนติดต่อกันหลายปี สามารถพลิกสู่ “กำไร” ได้ในเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น พร้อมผลักดันพอร์ตธุรกิจร้านอาหารในเครือเติบโตและขยายฐานลูกค้ามากขึ้น

ไพศาล อ่าวสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิสโตร เอเชีย จำกัด บริษัทในเครือไทยเบฟ ฉายภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยปี 2567 ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ตามแรงหนุนของตลาดในประเทศและกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่กลับมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

ปีนี้บริษัทจะเดินหน้าขยาย 6 แบรนด์ธุรกิจอาหารให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทั้ง บ้านสุริยาศัย (BAAN SURIYASAI) ไฮด์ แอนด์ ซีค (HYDE & SEEK) หม่าน ฟู่ หยวน (MAN FU YUAN) โซ อาเซียน (SO Asean Café & Restaurant) ศูนย์อาหารฟู้ด สตรีท (Food Street) และ แวนเทจ พอยท (Vantage Point) โดยวางแนวทางทั้งการเปิดสาขาใหม่ การขยายพาร์ตเนอร์ร่วมสร้างแบรนด์ในรูปแบบสร้างสรรค์ และการรุกทำกิจกรรมการตลาดผ่านออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง ไปจนถึงการสร้างสรรค์เมนูอาหารไอเดียใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า

โดยเตรียมงบลงทุน 100 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ 7 สาขา พร้อมนำธุรกิจร้านอาหารในเครือไปเปิดสาขาใหม่ที่ วัน แบงค็อก (One Bangkok) ในเดือน ต.ค. นี้ ประกอบด้วย โซ อาเซียน, ไฮด์ แอนด์ ซีค, แวนเทจ พอยท, หม่าน ฟู่ หยวน, ศูนย์อาหารฟู้ด สตรีท และ บ้านสุริยาศัย

ยุทธศาสตร์การขยายธุรกิจร้านอาหาร ได้วางแนวทางที่ผสมผสานทั้งสร้างความแข็งแกร่งทั้ง 1. Business มุ่งสร้างการเติบโตแบบอย่างยั่งยืน พร้อมด้วยการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ 2. Technology การนำเทคโนโลยีมาร่วมสร้างประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีมากขึ้น 3. People เพิ่มศักยภาพขององค์กรและพนักงาน มุ่งสู่องค์กรแห่งความเป็นเลิศ อีกทั้งได้วางกลยุทธ์ สร้างการเติบโตแบบผสมผสาน ตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า และมีความยืดหยุ่น พร้อมปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว รวมถึงการใช้ ดิจิทัล ครีเอเตอร์ ผ่าน TikTok ร่วมสื่อสารแบรนด์และทำการตลาด พร้อมผนึกพันธมิตรขยายธุรกิจให้แข็งแกร่งมากขึ้น

การต่อยอดสู่การมีพาร์ทเนอร์ประเดิมแบรนด์ บ้านสุริยาศัย ร่วมมือกับแบรนด์ SARRAN จิลเวลรี่และเครื่องประดับ ทำกิจกรรมการตลาดร่วมกันเป็นครั้งแรกเพื่อร่วมนำเสนอเรื่องราวของบ้านสุริยาศัย ที่เปิดมากว่า 100 ปีแล้ว สู่เมนูอาหารพิเศษ พร้อมคอลเลคชั่นของเครื่องประดับ นับเป็นครั้งแรกที่บ้านสุริยาศัย ได้ร่วมขยายสู่การจัดทำจิลเวลรี่ อนาคตอาจมีการจัดทำคอลเลคชั่นพิเศษ

“แคมเปญนี้ถือเป็นการร่วมการตอกย้ำแบรนด์ที่มีความพิเศษและมีเอกลักษณ์​ โดย บ้านสุริยาศัย เป็นร้านอาหารไทย ที่นำเสนออาหารผ่านการท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ไทยในแต่ละยุคสมัยผ่านประสบการณ์สุดหรูของอาหาร ที่ถูกรังสรรค์ด้วยความงามแบบวิจิตร”

อีกสิ่งที่ต้องติดตามกับเทรนด์อาหารมาแรงในโลก มี 6 เรื่องหลัก คือ 1 .Hydration Still in Trend น้ำเปล่า เปรียบเสมือนยาอายุวัฒนะ โดยได้มีการนำไปสร้างสรรค์เครื่องดื่มต่างๆ ทั้งเครื่องดื่มผสมวิตามินต่างๆ มีนวัตกรรมหลากหลาย 2 .Buckwheat’s year บัควีท ที่ได้รับความนิยมนำมาขยายสู่เมนูที่หลากหลายอย่างในประเทศญี่ปุ่น ได้นำมาทำโซบะ 3 .Hot Sauces อาหารร้อนที่มาแรงจากกระแสความนิยมสมุนไพรที่มีมากขึ้นหลังโควิด โดยเฉพาะจากฝั่งยุโรปชื่นชอบรสชาติที่เผ็ดร้อน 4. Dish of the Year: Soup เมนูซุป เป็นจานยอดนิยมมาตลอด 5. More Asian ingredients มีส่วนผสมของวัตถุดิบจากภูมิภาคอาเซียนที่หลากหลาย และ 6. Dinner in a drink การมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปอยู่ในส่วนผสมของอาหารต่างๆ สร้างความแปลกใหม่ในแต่ละเมนู

พร้อมติดตามเทรนด์ในไทยนำมาต่อยอดธุรกิจ ได้แก่ 1.มู-เก็ตติ้ง ยังฮอต ผู้ประกอบการควรนำมาใช้สร้างโอกาสเพิ่มให้แก่ธุรกิจ 2.เทรนด์ความสวยงาม ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าในทุกวัย แบรนด์ควรปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด 3.การท่องเที่ยวที่ขยายตัว ทั้งเข้ามาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในไทยผู้ประกอบการต้องเตรียมพร้อมเพิ่มโอกาส และ 4.เทคโนโลยีเอไอ มีบทบาทมากขึ้นในทุกภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการต้องพร้อมสร้างโอกาสใหม่ๆ

ทั้งนี้บริษัทได้ปรับแผนให้สอดคล้องกับเทรนด์ต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ดี รวมถึงมีแผนเปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารใหม่เข้ามาทำตลาดด้วย ประเมินว่าสิ้นปี 2567 จะสร้างผลประกอบการเติบโต 6% จากปีก่อน

สำหรับ ภาพรวมสิ้นปี 2566 ที่ผ่านมา มีสาขาเปิดให้บริการรวม 19 สาขา เป็น “โซ อาเซียน”  8 สาขา เป็นร้านอาหารเน้นอาหารไทยแต่ละภูมิภาคและอาหารอาเซียนยอดนิยม “ไฮด์ แอนด์ ซีค”  2 สาขา เป็นร้านอาหารตะวันตกสไตล์แกสโตร บาร์ “หม่าน ฟู่ หยวน” 3 สาขา เป็นร้านอาหารจีนกว้างตุ้ง “บ้านสุริยาศัย” 1 สาขา เป็นร้านอาหารไทยต้นตำรับ และ “แวนเทจ พอยท” 1 สาขา เป็นร้านอาหารสไตล์ยูโรเปียน และศูนย์อาหารฟู้ด สตรีท 4 สาขา รวบรวมร้านอาหารชื่อดังในไทย


ข้อมูลวันที่ 07/03/2024